Powered By Blogger

วันอังคารที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2558

โปรแกรมภาษาคอมพิวเตอร์ (c/c++/Java)

โปรแกรมภาษาคอมพิวเตอร์


ทำความรู้จักกับคำว่า"ภาษาคอมพิวเตอร์"
มนุษย์ใช้ภาษาในการสื่อสารมาตั้งแต่สมัยโบราณ การใช้ภาษาเป็นเรื่องที่มนุษย์พยายามถ่ายทอดความคิดและความรู้สึกต่าง ๆ เพื่อการโต้ตอบและสื่อความหมาย ภาษาที่มนุษย์ใช้ติดต่อสื่อสารในชีวิตประจำวัน เช่น ภาษาไทย ภาษาอังกฤษ หรือภาษาจีน ต่างเรียกว่า “ภาษาธรรมชาติ” (Natural Language) เพราะมีการศึกษา ได้ยิน ได้ฟัง กันมาตั้งแต่เกิดการใช้งานคอมพิวเตอร์ ซึ่งเป็นเครื่องมือทางอิเล็กทรอนิกส์ให้ทำงานตามที่ต้องการ จำเป็นต้องมีการกำหนดภาษา สำหรับใช้ติดต่อสั่งงานกับคอมพิวเตอร์ ภาษาคอมพิวเตอร์จะเป็น ”ภาษาประดิษฐ์” (Artificial Language) ที่มนุษย์คิดสร้างมาเอง เป็นภาษาที่มีจุดมุ่งหมายเฉพาะ มีกฎเกณฑ์ที่ตายตัวและจำกัด คืออยู่ในกรอบให้ใช้คำและไวยากรณ์ที่กำหนดและมีการตีความหมายที่ชัดเจน จึงจัดภาษาคอมพิวเตอร์เป็นภาษาที่มีรูปแบบเป็นทางการ (Formal Language) ต่างกับภาษาธรรมชาติที่มีขอบเขตกว้างมาก ไม่มีรูปแบบตายตัวที่แน่นอน  กฎเกณฑ์ของภาษาจะขึ้นกับหลักไวยากรณ์และการยอมรับของกลุ่มผู้ใช้นั้น ๆ
ภาษาคอมพิวเตอร์อาจแบ่งได้เป็น 3 ระดับ คือ ภาษาเครื่อง (Machine Language) ภาษาระดับต่ำ (Low Level Language) และภาษาระดับสูง (High Level Language)

ภาษาเครื่อง (Machine Language)




“ภาษาเครื่อง” ภาษานี้ประกอบด้วยตัวเลขล้วน ทำให้เครื่องคอมพิวเตอร์สามารถทำงานได้ทันที ผู้ที่จะเขียนโปรแกรมภาษาเครื่องได้ ต้องสามารถจำรหัสแทนคำสั่งต่าง ๆ ได้ และในการคำนวณต้องสามารถจำได้ว่าจำนวนต่าง ๆ ที่ใช้ในการคำนวณนั้นถูกเก็บไว้ที่ตำแหน่งใด ดังนั้นโอกาสที่จะเกิดความผิดพลาดในการเขียนโปรแกรมจึงมีมาก นอกจากนี้เครื่องคอมพิวเตอร์แต่ละระบบมีภาษาเครื่องที่แตกต่างกันออก ทำให้เกิดความไม่สะดวกเมื่อมีการเปลี่ยนเครื่องคอมพิวเตอร์เพราะจะต้องเขียนโปรแกรมใหม่ทั้งหมด


ภาษาระดับต่ำ (Low Level Language)



เนื่องจากภาษาเครื่องเป็นภาษาที่มีความยุ่งยากในการเขียน จึงไม่มีผู้นิยมและมีการใช้น้อย จึงได้มีการพัฒนาภาษาคอมพิวเตอร์ขึ้นอีกระดับหนึ่งโดยการใช้ตัวอักษรภาษาอังกฤษเป็นรหัสแทนการทำงาน การใช้และการตั้งชื่อตัวแปรแทนตำแหน่งที่ใช้เก็บจำนวนต่างๆ ซึ่งเป็นค่าของตัวแปรนั้น ๆ การใช้สัญลักษณ์ช่วยให้การเขียนโปรแกรมนี้เรียกว่า “ภาษาระดับต่ำ” เป็นภาษาที่มีความหมายใกล้เคียงกับภาษาเครื่องมากบางครั้งจึงเรียกภาษานี้ว่าภาษาอิงเครื่อง” ตัวอย่างของภาษาระดับต่ำ ได้แก่ ภาษาแอสเซมบลี เป็นภาษาที่ใช้คำในอักษรภาษาอังกฤษเป็นคำสั่งให้เครื่องทำงาน เช่น ADD หมายถึง บวก SUB หมายถึง ลบ เป็นต้น การใช้คำเหล่านี้ช่วยให้การเขียนโปรแกรมง่ายขึ้นกว่าการใช้ภาษาเครื่องซึ่งเป็นตัวเลขล้วน ดังตารางแสดงตัวอย่างของภาษาระดับต่ำและภาษาเครื่องที่สั่งให้มีการบวกจำนวนที่เก็บอยู่ในหน่วยความจำ

ภาษาระดับสูง (High Level Language)


ภาษาระดับสูงเป็นภาษาที่สร้างขึ้นเพื่อช่วยอำนวยความสะดวกในการเขียนโปรแกรมกล่าวคือลักษณะของคำสั่งจะประกอบด้วยคำต่าง ๆ ในภาษาอังกฤษ ซึ่งผู้อ่านสามารถเข้าใจความหมายได้ทันที ผู้เขียนโปรแกรมจึงเขียนโปรแกรมด้วยภาษาระดับสูงได้ง่ายกว่าเขียนด้วยภาษาแอสเซมบลีหรือภาษาเครื่อง ภาษาระดับสูงมีมากมายหลายภาษา อาทิเช่น ภาษาฟอร์แทรน (FORTRAN) ภาษาโคบอล (COBOL) ภาษาปาสคาล (Pascal) ภาษาเบสิก(BASIC) ภาษาวิชวลเบสิก (Visual Basic) ภาษาซี (C) และภาษาจาวา (Java) เป็นต้น โปรแกรมที่เขียนด้วยภาษาระดับสูงแต่ละภาษาจะต้องมีโปรแกรมที่ทำหน้าที่แปลภาษาระดับสูงให้เป็นภาษาเครื่อง เช่น โปรแกรมแปลภาษาฟอร์แทรนเป็นภาษาเครื่อง โปรแกรมแปลภาษาปาสคาลเป็นภาษาเครื่อง คำสั่งหนึ่งคำสั่งในภาษาระดับสูงจะถูกแปลเป็นภาษาเครื่องหลายคำสั่ง

ตัวอย่างของภาษาระดับสูง
1.ภาษาซีและซีพลัสพลัส (C และ C++)


ภาษาซีเป็นภาษาที่พัฒนาจากห้องปฏิบัติการเบลล์ของบริษัทเอทีแอนด์ทีในปี พ.ศ. 2515 หลังจากที่พัฒนาขึ้นได้ไม่นานภาษาซีก็กลายเป็นภาษาที่นิยมในหมู่นักเขียนโปรแกรมมากและมีใช้งานในเครื่องทุกระดับทั้งนี้เนื่องจากภาษาซีได้รวมเอาข้อมูลของภาษาระดับสูงและภาษาระดับต่ำเข้าไว้ด้วยกัน กล่าวคือเป็นภาษาที่มีไวยากรณ์ที่เข้าใจง่าย ทำให้เขียนโปรแกรมได้ง่ายเช่นเดียวกับภาษาระดับสูงทั่วไป แต่ประสิทธิภาพและความเร็วในการทำงานดีกว่ามากเนื่องจากมีการทำงานเหมือนภาษาระดับต่ำ สามารถทำงานได้ในระดับที่เป็นการควบคุมฮาร์ดแวร์ได้มากกว่าภาษาระดับสูงอื่น ๆ ดังจะเห็นว่าภาษาซีเป็นภาษาที่สามารถพัฒนาระบบปฏิบัติการได้ เช่น ระบบปฏิบัติการยูนิกซ์
นอกจากนี้เมื่อแนวคิดของการเขียนโปรแกรมแบบเชิงวัตถุได้เข้ามามีบทบาทในวงการคอมพิวเตอร์มากขึ้น ภาษาซีก็ยังได้รับการพัฒนาโดยประยุกต์ใช้กับการเขียนโปรแกรมดังกล่าว เกิดเป็นภาษาใหม่ชื่อว่า “ภาษาซีพลัสพลัส” (C++)

2.ภาษา Java


Java เป็นภาษาโปรแกรมที่ใช้ในการเขียนคำสั่งสั่งงานคอมพิวเตอร์ ซึ่งพัฒนาขึ้นโดยบริษัท ซันไมโครซิสเต็มส์ จำกัด (Sun Microsystems Inc.) ในปี ค.ศ. 1991  Java เป็นภาษาสำหรับเขียนโปรแกรมภาษาหนึ่งที่มีลักษณะสนับสนุนการเขียนโปรแกรมเชิงวัตถุ (OOP :Object-Oriented Programming) ที่ชัดเจน โปรแกรมต่าง ๆ ถูกสร้างภายในคลาส (Class) โปรแกรมเหล่านั้นเรียกว่า Method หรือ Behavior โดยปกติจะเรียกแต่ละ Class ว่า Object โดยแต่ละ Object มีพฤติกรรมมากมาย โปรแกรมที่สมบูรณ์จะเกิดจากหลาย object หรือหลาย Class มารวมกัน โดยแต่ละ Class จะมี Method หรือ Behavior แตกต่างกันไป

ข้อดีของภาษา Java
          1. ภาษา Java เป็นภาษาโปรแกรมที่ง่ายในการเรียนรู้ ภาษา Java มีคุณลักษณะต่างๆ ดังนี้ เช่น เชื่อมต่อข้ามแพล็ตฟอร์ม (Platforms) ต่างๆ ได้ สามารถเขียนโปรแกรมแบบ OOP (Object-Oriented Programming) ได้งายมาก โปรแกรมมีขนาดเล็ก และมีวิธีการเขียนไม่ยุงยากซับซ้อน ดังนั้นโปรแกรมที่เขียนด้วยภาษา Java จึงคอมไพล์ได้ง่ายตลอดจนตรวจสอบหาข้อผิดพลาดโปรแกรมได้ง่ายด้วย ภาษา java เป็นภาษาที่ทำความเข้าใจได้ง่ายมาก มีขนาดเล็กและยากที่จะเกิดข้อผิดพลาด เขียนคำสั่งได้ง่าย มีประสิทธิภาพในการทำงานและมีความยืดหยุ่นสูง

          2. ภาษา Java เป็นการเขียนโปรแกรมเชิงวัตถุ OOP (Object-Oriented Programming) การเขียนโปรแกรมเชิงวัตถุ เป็นเทคนิคการเขียนโปรแกรมให้มีลักษณะเป็นโมดูล (Module) แบ่งโปรแกรมเป็นส่วนๆ ตามสภาวะแวดล้อมการทำงานของโปรแกรมซึ่งเรียกว่า Method โดยทุก Method ก็คือ ระเบียบวิธี หรือการทำงานอย่างใดอย่างหนึ่ง โดยจะถูกรวบรวมอยู่ในคลาส ซึ่งหลักการเขียนโปรแกรมเชิงวัตถุจะมององค์ประกอบของโปรแกรมต่างๆเป็นคลาสหรือวัตถุ เรียกว่า Object ตัวอย่าง เช่น วัตถุที่มองเห็นได้ เช่น รถ สินค้า หรือ วัตถุที่ไม่สามารถมองเห็นได้ เช่น เหตุการณ์ต่างๆ  ข้อมูลต่างๆของ Object จะถูกซ่อนไว้คลาสเรียกว่า Data Encapsulation ซึ่งมีประโยชน์ในการแก้ไขข้อมูลหรือ Method ใดๆ ที่อยู่ในคลาส โดยไม่ส่งผลกระทบต่อการทำงานหรือเรียกใช้งานของ Object นั้น 
        3. ภาษา Java เป็นอิสระต่อแพล็ตฟอร์ม (Java is Platform-Independent)Java เป็นอิสระต่อแพล็ตฟอร์ม ทั้งระดับซอร์ซโค้ด (Source Code) และไบนารีโค้ด (Binary Code) ช่วยให้สามารถเคลื่อนย้ายโปรแกรมจากระบบคอมพิวเตอร์หนึ่งไปยังระบบคอมพิวเตอร์อื่นได้อย่างง่ายดาย เพราะว่าโปรแกรมที่เขียนด้วยภาษา Java ได้รวบรวมคำสั่งต่างๆไว้ในไลบรารีคลาสพื้นฐานต่างๆ เป็น Java Packages ช่วยอำนวยความสะดวกในการเขียนคำสั่ง เมื่อย้ายโปรแกรมไปยังแพล็ตฟอร์มอื่น โดยไม่ต้องเขียนซอร์ซโค้ด (Source Code) ขึ้นใหม่ทำให้ประหยัดเวลามาก เมื่อคอมไพล์ซอร์ซโค้ด จะได้ไฟล์ไบนารีโค้ด ที่เรียกว่า Bytecode การรันโปรแกรมของ Java จะทำงานในลักษณะอินเทอร์พรีเตอร์ (Interpreter) ของไฟล์ Bytecode  ซึ่งสามารถรันบนแพล็ตฟอร์มใดๆ ก็ได้ รวมทั้งระบบปฏิบัติการต่างๆ เช่น ระบบ Windows, Solaris, Linux หรือ MacOS โดยการแปลคำสั่งทีละคำสั่ง แพล็ตฟอร์มที่ Java ทำงานได้จะต้องประกอบด้วย 2 ส่วน คือ Java Virtual Machine (JVM) และ Java Application Programming Interface (Java API) โดย Java Virtual Machine คือเครื่องมือที่รวบรวมคำสั่งคอมไฟล์และรันโปรแกรม Java ส่วน Java API เป็นกลุ่มของคลาส และอินเตอร์เฟส (Interface) ที่รวมอยู่ในไลบรารีที่เรียกว่า Java Package เช่น java.awt, java.util หรือ java.io เป็นต้น ลักษณะการทำงานของ Java ที่เป็นอิสระต่อแพล็ตฟอร์มโดยการเขียนโปรแกรมเพียงครั้งเดียวแต่สามารถนำไปใช้ทำงานยังเครื่องอื่นๆ ได้ นั้นเรียกว่า Write once, Run anywhere นั้นเอง

          4. ภาษา Java มีระบบการทำงานและมีระบบความปลอดภัยที่ด Java จะคำสั่งต่างๆที่เป็นส่วนประกอบของ Java API โดยมีการรวบรวมเป็นคลาสต่างๆไว้มากมาย ช่วยอำนวยความสะดวกในการเขียนโปรแกรม นอกจากนั้นยังมี Garbage Collector โดยมีระบบจัดการหน่วยความจำเพื่อเก็บขยะของโปรแกรมและคืนหน่วยความจำให้กับระบบ โปรแกรมที่เขียนด้วยภาษา Java มีระบบจัดการข้อผิดพลาดที่เกิดจากการทำงานของโปรแกรมที่เรียกว่า Exception Handling ด้วยทำให้สามารถตรวจสอบโปรแกรม (Debug) โปรแกรมได้ง่ายขึ้น Java มีระบบความปลอดภัยที่ดี เช่น โปรแกรม Java ที่ทำงานบนเว็บบราวเซอร์ (Web Browser) ที่เรียกว่า Java Applet นั้นจะทำงานเฉพาะบนเครื่องแม่ข่าย (Server) โดยไม่สามารถเข้าถึงเครื่องลูกข่าย (Client) ไปทำลายไฟล์ หรือไฟล์ระบบ (System file) ได้ ทำให้มีระบบความปลอดภัยที่ดี ป้องกันข้อมูลจากไวรัส และโปรแกรมที่เขียนด้วย Java ไม่มีพฤติกรรมเป็นไวรัส ได้

สรุปลำดับภาษาคอมพิวเตอร์



วันศุกร์ที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2558

Social Network กับนักเรียนและสังคมไทย


Social Network กับนักเรียนและสังคมไทย


Social Network คืออะไร?
Social Network คือเครือข่ายของการเชื่อมต่อสิ่งต่างๆในโลกออน์ไลน์ที่จะเปิดโอกาสให้เราสามารถแลกเปลี่ยนความรู้ ความคิดเห็น ข้อมูลข่าวสารต่างๆ ได้อย่างสะดวกรวดเร็ว และผู้ที่ใช้Social Network 
ก็สามารถที่จะทำความรู้จักซึ่งกันและกันได้โดยไม่จำเป็นต้องรู้จักกันมาก่อน  ซึ่ง Social network ก็นับได้ว่าเป็นสิ่งมหัศจรรย์ที่ทำให้การใช้ชีวิตของเรานั้นสามารถเชื่อมต่อเข้าถึงซึ่งกันและกันได้อย่างง่ายดาย และก่อประโยชน์ต่อเราในหลายๆด้านอีกด้วย

การใช้งาน Social Network กับสังคมไทยในปัจจุบัน
                                                                                     
 
สังคมโลกในปัจจุบันนี้ก็คือยุคสมัยแห่งเทคโนโลยีและความเจริญก้าวหน้า ที่ทำให้วิถีการดำรงชีวิตของเราเป็นไปได้อย่างสะดวกสบายมากขึ้น และก่อให้เกิดการพัฒนาในหลายๆด้าน จนทำให้ Social Network เกิดขึ้นมาปะปนอยู่กับการใช้ชีวิตประจำวันของพวกเราทุกคน ซึ่งในสังคมไทยก็เป็นสังคมหนึ่งที่มีการใช้ social networkในเกือบๆจะทุกด้านของการใช้ชีวิตในสังคมของเรา เพราะเป็นสิ่งที่ทำให้เราทันโลกทันสมัยในหลายๆด้าน ไม่ว่าจะเป็น ด้านสาระความรู้ ด้านความบันเทิง ด้านวิชาการ และในด้านต่างๆอีกมากมาย

































Social Network ที่เรารู้จักกันดี
                                                            


Facebook ก็นับได้ว่าเป็นส่วนหนึ่ง Social network
ที่เขามามีอิทธิพลกับคนในสังคมไทยอย่างมาก เพราะ
สิ่งนี้จะทำให้เราสามารถเท่าทันต่อเหตุการณ์บ้านเมือง
ในปัจจุบันได้อย่างรวดเร็ว โดยการให้เราสามารถโพสต์
ข้อมูลข่าวสาร สาระความรู้ และความคิดเห็นต่างๆ ลง
ไปให้คนอื่นได้รับรู้ในสิ่งที่เราต้องการสื่อให้คนอื่นๆได้
รับรู้ และยังสามารถพิมพ์ข้อความโต้ตอบกับคนๆได้อีกด้วย

Instagram (อินสตาแกรม) คือ แอพพลิเคชั่นถ่ายภาพและแต่งภาพบนสมาร์ทโฟน ที่มาพร้อมกับลูกเล่นการแต่งเติมสีสันให้กับรูปภาพด้วย Filters ต่าง ๆ ที่ให้เราสามารถเลือกปรับภาพได้หลากหลายและสวยงาม ได้ตามใจชอบทั้งในเรื่องของ สี แสง เรียกได้ว่าสามารถปรับอารมณ์ของรูปภาพได้ตามต้องการ และสามารถแชร์รูปภาพสวย ๆ อวดเพื่อน ๆ ที่อยู่ในสังคมออนไลน์อื่นๆได้อีกด้วย





Line คือแอพพลิเคชั่นที่มีไว้สำหรับการพิมพ์คุยสนทนาโต้ตอบกันระหว่าง
คน2คนขึ้นไป โดยสามารถสร้างห้องสนทนาแบบส่วนตัว หรือสร้างห้องสนทนา
เป็นกลุ่มก็ได้ ซึ่งในปัจจุบันประชาชนในสังคมไทยก็ได้ใช้บริการแอพพลิเคชั่น
นี้เป็นจำนวนมาก เพราะเป็นสิ่งที่จะทำให้พวกเขา สามารถติดต่อสื่อสารและเข้าถึง
ซึ่งกันและกันได้อย่างรวดเร็ว และที่สำคัญเราสามารถใช้บริการ Free call
คือการสนทนาโต้ตอบกันโดยใช้เสียงพูดของเราโดยไม่เสียค่าบริการ
หรือค่าโทรใดๆ ทำใ้เป็นสิ่งที่ต้องตาต้องใจกับเราอย่างมาก





                                             

Youtube เป็นSocial Network ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากตั้งแต่
อดีตจนถึงปัจจุบัน ซึ่งYoutube นี้ก็ถือได้ว่าเป็นสิ่งที่มาในยุคแรกๆที่
คนมีการรู้จักใช้งานอินเทอร์เน็ตเป็น โดยYoutube นี้ก็คือแหล่งรวมคลิป
วีดิโอประเภทต่างๆที่เปิดโอกาสให้เราอัดคลิปต่างๆแล้วนำมาแผยแพร่ให้คนอื่นๆได้รับรู้
ไม่ว่าจะเป็น คลิปสอนทำอาหาร คลิปให้ความบันเทิงตลกขบขัน คลิปควมรู้วิชาการต่างๆ
ซึ่งก็นับได้ว่าเป็นแหล่งที่ทำให้เราได้เปิดโลกกว้างค้นพบในสิ่งใหม่ๆที่เราไม่เคยเห็นมาก่อน



ผลดีในการใช้ Social Network


  1. ทำให้เราสามารถเข้าถึงและรับรู้ข้อมูลข่าวสารต่างๆได้อย่างเร็วเร็วและประหยัดเวลา
  2. ทำให้เราสามารถติดต่อสื่อสารกับคนหลายๆคนในระยะไกลได้อย่างสะดวกสบาย
  3. ทำให้เราสามารถแผยแพร่ข้อมูลข่าวสารดีๆให้แก่คนอื่นได้รับรู้กันอย่างกว้างขวาง
  4. ทำให้เราคลายเครียดหลังจากกลับมาจากการทำงานหรือการเรียนทำให้เรามีสุขภาพจิตที่ดี
  5. ก่อผลดีให้กับผู้ที่ทำงานด้านธุระกิจออน์ไลน์ให้ได้มีการประชาสัมพันธ์ที่รวดเร็วและก่อกำไรเพิ่มขึ้น


ผลเสียในการใช้ Social Network


  1. หากผู้ใช้บริการไม่ระมัดระวังในการกรอกข้อมูลของบางเว็บไซต์อาจถูกผู้ไม่หวังดีนำมาใช้ในทางเสียหาย หรือละเมิดสิทธิส่วนบุคคลได้
  2. การที่ใช้บริการ Social Network มากจนเกินไปอาจจะทำให้เสียการเรียนหรือการทำงานได้
  3. ผู้ที่ใช้ Social Network มากจนเกินไปจะทำให้เสียสุขภาพตาที่ดีได้เนื่องจากอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน
  4. อาจทำให้ผู้ Social network ใช้เวลาไปโดยเปล่าประโยชน์ถ้าใช้มันไปกับเรื่องไร้สาระ
  5. อาจจะเป็นช่องทางหนึ่งในการถูกละเมิดลิขสิทธิ์ ขโมยผลงาน หรือถูกแอบอ้างได้
  

   
 สรุปแล้ว Social Network เป็นสิ่งที่ทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ของเรามีการเจริญก้าวหน้าและพัฒนามากขึ้น
ที่ก่อเกิดทั้งประโยชน์และโทษแก่เราได้ ซึ่งถ้าเราใช้มันไปในทางที่ถูกต้อง Social Network ก็จะกลายเป็น
สิ่งที่อำนวยความสะดวกสบายและทำให้สิ่งต่างๆสามารถเป็นจริงได้ โดยสังคมไทยในปัจจุบันก็ได้ นำสิ่งที่มีประโยชน์เหล่านี้
มาพัฒนาชีวิตความเป็นอยู่ของคนไทยให้ดีขึ้นและทำให้คนไทยเขาถึงกันได้อย่างทั่วถึง



ที่มา
https://sites.google.com/site/52011011419dekhos/phlk-ra-thb/khxdi---khx-seiy-khxng-social-network


https://hooahz.wordpress.com/tag/%E0%B9%82%E0%B8%8B%E0%B9%80%E0%B8%8A%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%A5%E0%B9%80%E0%B8%99%E0%B9%87%E0%B8%95%E0%B9%80%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B8%84/



วันอังคารที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2558

เรื่องราวที่นักเรียนสนใจ(สวนน้ำ Cartoon network amazone)


Cartoon Network Amazone Pattaya ThailandCartoon Network กลับมาแล้ว!!! ในความตระการตา





รูปแบบใหม่ของสวนน้ำ 
             Cartoon Network Amazone 


สวนน้ำ Cartoon Network Amazone ก็ถือได้ว่าเป็นความอลังกาลครั้งใหม่ที่ทาง cartoon network ได้ตัดสินใจสรรคสร้างสวนน้ำธีมการ์ตูนเน็ทเวิร์กแห่งแรกของโลกในประเทศไทยของเรานี้เอง โดยเขาได้กล่าวปากต่อปากกันว่าเป็นสวนน้ำที่ใช้เครื่องเล่นดีที่สุดในโลก!!!!
เพื่อมอบความสนุกสนานและความเพลิดเพลินให้แก่เราจนถึงขีดสุด
มาทำความรู้จักให้มากขึ้นกันเถอะ
สวนน้ำ Cartoon Network Amazone นั้นตั้งอยู่ ณ จังหวัดชลบุรีบริเวณชายหาดบังเสร่ซึ่งอยู่ห่างจากสวนนงนุชเพียงไม่กี่กิโลเมตรและใช้เวลาประมาณ20นาทีในการขับรถมาจากตัวเมืองพัทยา และห่างจากสนามบินสุวรรณภูมิในการขับรถมา 90 นาที 

วันเวลามอบความสนุก
สวนน้ำ Cartoon Network Amazone เปิดให้เข้าสวนน้ำตลอดทั้งปี วันจันทร์-อาทิตย์ 10.00น.-18.00น.

ราคาบัตรผ่านประตู

บัตรผ่านประตูรายวัน                       



ผู้ใหญ่ (อายุ 13-64 ปี)
ผู้ถือสัญชาติไทย
1,290 บาท
ชาวต่างชาติ

1,590 บาท
เด็ก (อายุ 3-12 ปี)
890 บาท
1,190 บาท
ผู้สูงอายุ (อายุเกิน 65 ปี)
890 บาท
1,190 บาท
                                                       


บัตรผ่านประตูรายปี



    เริ่มต้นที่

60000บาท







ได้เวลาเจาะลึกความสนุกแล้ว

โซนผ่อนคลาย

MEGA WAVE

ในส่วนของ Mega wave นี้เราจะได้สัมผัสกับทะเลเทียมที่มีขนาดกว้างใหญ่และคลื่นทะเลเทียมที่มีความสูงเหมือนกับคลื่นในทะเลที่พร้อมให้เราได้รู้ผ่อนคลายและเร้าใจไปในเวลาเดียวกัน
RIPTIDE RAPIDS

ในโซนนี้เราจะได้ล่องห่วงยางไปในสายน้ำที่มีความยาวถึง 1100 ฟุต ที่ในแต่ละช่วงนั้นจะจำลองถึงป่าอะเมซอนที่มีสัตว์ป่าและสตว์แปลกตาแปลกใจมากมาย
CARTOONIVAL


ในส่วนนี้จะเป็นโซนของคุณน้องๆหนูๆที่เปรียบเสมือนสนามเด็กที่อยู่ในน้ำ ที่มีสไลส์เดอร์เป็นรูปตัวการ์ตูนต่างๆที่เด็กๆชอบและมีกิจกรรมต่างๆให้ได้สนุกเพลิดเพลินกันมากมาย แต่ที่จุดสำคัญของโซนนี้คือการเทน้ำจำนวนมหาศาลลงมาจากถังชั้นบนสุดมาสาดน้ำให้ได้ชุ่มช่ำกันทั่วหน้า

โซนแห่งความสนุก

JAKE JUMP
ในส่วนนี้เราจะได้สัมผัสถึงความมันส์ในการสไลด์ตกลงมาจากที่สูงในแนวดิ่งเกือบ 90 องศา โดยการนั่งห่วงยางทยานไปบนอากาศไปกับเพื่อนคู่ใจ




 RAINICORN               
                                                              
ในส่วนนี้เราจะได้สนุกไปกับความมืดและความชันอย่างกับเราตกไปในห่วงอวกาศอย่างรวดเร็วก่อนจะออกมาจากความมืดสู่แสงสว่าง




BANANA SPIN

เริ่มต้นจากหอสูง 46 ฟุตสไลด์ลงไปในอุโมงค์ดำมืดก่อนจะออกมาในชามขนาดใหญ่ที่มีชื่อว่า Banana Spin ของ Johnny Bravo หลังจาก นั้นเราจะพบกับน้ำวนขนาดใหญ่หมุนรอบและลงด้านล่างด้วยความเร็วสูงเข้าไปในแกนเกลียว ผ่านม่านน้ำขนาดใหญ่พร้อมสัมผัสประสบการณ์ไร้น้ำหนักชั่วขณะก่อนทิ้งตัวลงสู่สระว่ายน้ำด้านล่าง

SURFARENA                               
ในส่วนนี้เราจะได้ร่วมสนุกสุดมันส์ไปกับการเล่นกระดานโต้คลื่นที่มีการปล่อยน้ำแรงดันสูงออกมาท้าทายความกล้าของนักกระดานโต้คลื่นอย่างแท้จริง 





โซนแห่งความตื่นเต้นท้าทาย
ALIEN ATTACK


พร้อมแล้วหรือยังที่จะเข้าไปในท้องของเหล่าเอเลี่ยนชื่อดังล่องแพมันส์ๆลงไปตามท่อสไลด์ยาว 360 ฟุตในน้ำที่น่าหวาดเสียว ตื่นเต้นที่สุด พลิกพลิ้ว คดเคี้ยว ล่องขึ้น-ลงเหมือนอยู่นอกอวกาศ ท้าแรงโน้มถ่วงและเร่งสปีดผ่านเนินขึ้นไปและพบกับความประหลาดใจอย่างไม่รู้จบกับเครื่องพ่นน้ำพลังสูง

INTERGALACTIC RACERS

ถ้าคุณอยากจะแข่งขันสุดมันส์ไปกับเพื่อนหรือครอบครัวของคุณนั้น โซนนี้ก็ถือได้ว่าเป็นโซนที่ตอบโจทย์ของคุณอย่างยิ่งเพราะคุณจะได้สไลด์ลงมาบนแผ่นยางตามทางที่หวาดเสียว ทั้งขึ้นและลงแบบเอาหน้าพุ่งราวกับว่าคุณกำลัง
ทะบายลงสู่พื้นน้ำด้วยความเร็วสูง แล้วมาดูกันว่าใครจะเข้าถึงเส้นชัยก่อนกัน

GOOP LOOP



                                                        
    






ริ่มจากเข้าไปในห้องปิดที่มีประตูกล เมื่อได้รับสัญญาณพื้น ด้านล่างใต้เท้าของคุณก็จะเปิดออกทันที และคุณก็จะตกดิ่งลงมาบนเครื่องเล่นที่มีความชันถึง 60 องศาที่เหมือนกับรถไฟเหาะตีลังกาที่มีอัตราความเร็วสูงถึง 2.5 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

HUMUNGASLIDE

The HUMUNGASLIDE เป็นหนึ่งในสไลด์ที่แรงสุดๆในหมู่สไลด์ทั้งหมดเปิดโอกาสให้คนสองคนแข่งกันลื่นลงผ่านเส้นทาง แห่งความเร็วในท่อกลมที่ประกอบไปด้วยการเลี้ยว การหมุน และความน่าประหลาดใจต่างๆที่จะทำให้หัวใจคุณแทบจะหยุดเต้น เสมือนกำลังเสี่ยง ชีวิตอยู่ในปากของเจ้าUltimate Humungousaur

ที่มา

http://tw.on.cc/tw/bkn/cnt/lifestyle/20140804/bkntw-20140804120454436-0804_04511_001_cn.html?section=all








วันพฤหัสบดีที่ 4 มิถุนายน พ.ศ. 2558

เทคโนโลยีกับชีวิตประจำวันของนักเรียน


        เทคโนโลยีกับการใช้ชีวิตประจำวันของนักเรียน

           เมื่อพูดถึงการใช้ชีวิตประจำวันของพวกเราทุกคนในยุคสมัยที่โลกกำลังก้าวหน้าอย่างปัจจุบันนี้แล้วคำว่าเทคโนโลยีก็คงเป็นคำที่ทุกคนรู้จักและคุ้นเคยกับมันเป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นเด็กในวัยเรียน ผู้ใหญ่ในวัยทำงาน หรือแม้กระทั่งผู้สูงอายุก็ตาม เนื่องจากเทคโนโลยีเป็นสิ่งที่ทำให้เราสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างสะดวกสบายมากขึ้น จึงทำให้เทคโนโลยีนี้เข้ามามีบทบาทกับการใช้ชีวิตประจำวันของเรามากขึ้นเรื่อยๆนั้นเอง

แล้วเทคโนโลยีคืออะไร?
โดยความคิดส่วนตัวของผมแล้ว เทคโนโลยีคือการนำความรู้ทางด้านวิชาวิทยาศาสตร์ในสาขาต่างๆมาประยุกต์ใช้ให้เกิดความคิดใหม่ๆที่จะสามารถนำความรู้เหล่านั้นมาประดิษฐ์คิดค้นอุปกรณ์หรีอเครื่องมือเครื่องใช้ ที่จะทำให้การใช้ชีวิตประจำวันของเรานั้นสามารถดำเนินไปได้อย่างสะดวกสบายและมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น
ตัวอย่างเทคโนโลยีในชีวิตประจำวัน



โทรศัพท์มือถือ
โทรศัพท์มือถือก็ถือได้ว่าเป็นเทคโนโลยีประเภทหนึ่งที่เข้ามามีบทบาทกับการใช้ชีวิตประจำวันของเราเป็นอย่างมาก เพราะนอกจากจะเป็นอุปกรณ์ที่สามารถให้เราติดต่อสื่อสารกันในระยะทางไกลได้แล้ว โทรศัพท์มือถือก็ได้รวมเอาความสามารถของเครื่องมือเครื่องใช้ประเภทอื่นๆมารวมอยู่ในโทรศัพท์มือถือเครื่องเดียวได้ จึงทำให้เราสามารถทำอะไรได้หลายๆอย่างจากโทรศัพท์มือถือ




รถไฟฟ้า
เนื่องจากการจราจรที่ติดขัดบนท้องถนนอาจทำให้หลายๆคน
เดินทางไปถึงจุดมุ่งหมายช้ากว่าที่กำหนดไว้และเกิดผลเสียอีกหลายอย่างต่อเรา ดังนั้นรถไฟฟ้าก็ถือได้ว่าเป็นเทคโนโลยีที่ดีอีกทางเลือกหนึ่ง ที่จะสามารถช่่วยให้เราไปถึงจุดมุ่งหมายได้อย่างสะดวกและรวดเร็วโดยไม่ต้องเบื่อหนายกับปัญหาการจราจรที่ติดขัดอีกต่อไป

การใช้ชีวิตประจำวันของผมร่วมกับเทคโนโลยี
     ผมนั้นก็เป็นคนหนึ่งที่ใช้ชีวิตประจำวันร่วมกับเทคโนโลยีไม่น้อยเลยทีเดียว เพราะอย่างที่เราทราบกันมาตั้งแต่ต้นแล้วว่า เทคโนโลยีนั้นทำให้การดำเนินชีวิติประจำวันของเราสะดวกสบายและมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นจึงทำให้ผมเองก็ต้องพึ่งพาเทคโนโลยีในตลอดทั้งวันเช่นกัน
 



ผมเริ่มใช้เทคโนโลยีตั้งแต่ตื่นนอน นั้นคือนาฬิกาปลุกในโทรศัพท์มือถือที่จะช่วยให้ผมตื่นนอนตรงเวลาเพื่อที่จะได้ออกไปทำธุระข้างนอกอย่างตรงเวลา





การอาบน้ำนั้นจำเป็นอย่างมากที่เราจะต้องอาบน้ำในอุณหภูมิที่
เหมาะสมต่อสภาพอากาศและร่างกายของเราในแต่ละวันดังนั้นผมจึงใช้เครื่องทำน้ำอุ่นมาปรับอุณหภูมิของน้ำที่จะใช้ชำระล้างร่างกายได้อย่างเหมาะสมเพื่อที่จะได้อาบน้ำอย่างสบายตัวและเป็นผลดีต่อสุขภาพร่างกาย




การเดินทางไปในที่ต่างๆนั้นจำเป็นอย่างมากที่เราจะต้องใช้ยานพาหนะที่จะพาผมไปตามที่ต่างๆได้อย่างสะดวกและรวดเร็วตรงตามเวลานัดหมาย เช่นการที่ผมไปกลับจากโรงเรียนโดยรถโดยสารประจำทางน้ันทำให้ผมเดินทางไปถึงจุดมุ่งหมายได้อย่างรวดเร็วและปลอดภัย







โทรศัพท์มือถือนั้นก็ถือเป็นเทคโนโลยีอีกประเภทหนึ่งที่ผมอยู่กับมัน
ทุกวันพราะโทรศัพท์มือถือนี้ช่วยให้ความบันเทิง ความรู้ความทันสมัยต่อเหตุการณ์บ้านเมือง การติดต่อสื่อสารกับผู้คนเช่นเมื่อผมเกิดอาการเครียดหลังจากทำงานแล้ว ผมก็จะใช้โทรศัพท์มือถือในการให้ความบังเทิงเพื่อคลายเครียดเช่น การดูคลิปตลกในyoutube เล่นเกมดูหนังต่างๆ หรือใช้โปรแกรมวาดภาพเพื่อวาดภาพระบายสี แลนอกจากนี้ผมก็ยังใช้โทรศัพท์มือถือติดต่อสื่อสารกับผู้ปกครองหรือคนอื่นๆ และติดตามข่าวสารต่างผ่านทางfacebook


                     


ผมใช้ไมโครเวฟในการประกอบอาหารเพื่อที่จะทำให้อาหารนั้น
สุกได้อย่างรวดเร็วและประหยัดเวลาในการประกอบอาหารเพื่อพร้อมที่จะนำมารับประทานซึ่งไมโครเวฟก็ถือว่าเป็นเทคโนโลยีที่ทำให้ผมประหยัดเวลาในการประกอบอาหารไปได้มาเลยทีเดียว



                และเทคโนโลยีเหล่านี้ก็เป็นบางส่วนที่ส่วนช่วยในการใช้ชีวิตประจำวันของผมให้ดำเนินไปได้อย่างสะดวกสบายมากขึ้น ดังนั้นเราก็คงจะเห็นแล้วว่าเทคโนโลยีนี้มีประโยชน์ต่อเราจริงๆแต่สิ่งไหนที่มี
ประโยชน์มันก็อาจจะมีโทษได้เหมือนกันดังนั้นถ้าจะให้การใช้เทคโนโลยีนี้เกิดประโยชน์กับเราโดยไม่ให้มีผลเสียตามมาเราก็ควรใช้มันอย่างถูกต้องและเหมาะสมในแต่ละประเภทของอุปกรณ์นั้นๆ

ที่มา


https://newsalertit.wordpress.com/2013/03/02/goophone-%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B8%B4%E0%B8%94%E0%B8%95%E0%B8%B1%E0%B8%A7%E0%B9%82%E0%B8%97%E0%B8%A3%E0%B8%A8%E0%B8%B1%E0%B8%9E%E0%B8%97%E0%B9%8C%E0%B8%A1%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%96%E0%B8%B7%E0%B8%AD/

https://www.google.co.th/search?hl=th&site=imghp&tbm=isch&source=hp&biw=1360&bih=667&q=%E0%B8%A3%E0%B8%96%E0%B9%84%E0%B8%9F%E0%B8%9F%E0%B9%89%E0%B8%B2+bts&oq=%E0%B8%A3%E0%B8%96%E0%B9%84%E0%B8%9F%E0%B8%9F%E0%B9%89%E0%B8%B2&gs_l=img.1.4.0l10.4029.19712.0.22321.9.7.0.2.2.0.97.571.7.7.0....0...1ac.1.64.img..0.9.581.q-aJDIgM9Fg#imgrc=loOgBzxv4qXpTM%253A%3BX4SXW59cK0t9yM%3Bhttp%253A%252F%252Fthinkofliving.com%252Fwp-content%252Fuploads%252F2013%252F10%252Fbts04.jpg%3Bhttp%253A%252F%252Fthinkofliving.com%252Ftag%252F%2525E0%2525B8%2525A3%2525E0%2525B8%252596%2525E0%2525B9%252584%2525E0%2525B8%25259F%2525E0%2525B8%25259F%2525E0%2525B9%252589%2525E0%2525B8%2525B2%252F%3B600%3B400

http://www.7boot.com/iphone-not-alarm-2011/

http://www.weloveshopping.com/template/tem/layout_showpic.php?url=i-techpower/DH-6BD2T.jpg,,,i-techpower/groupproduct/s_133830.jpg,i-techpower/groupproduct/s_95806.jpg,i-techpower/groupproduct/s_1833462.jpg,i-techpower/groupproduct/s_1833467.jpg,

https://www.google.co.th/search?hl=th&site=imghp&tbm=isch&source=hp&biw=1360&bih=667&q=%E0%B9%82%E0%B8%97%E0%B8%A3%E0%B8%A8%E0%B8%B1%E0%B8%9E%E0%B8%97%E0%B9%8C&oq=%E0%B9%82%E0%B8%97%E0%B8%A3&gs_l=img.1.0.0l10.5662.6478.0.7973.3.3.0.0.0.0.104.269.2j1.3.0....0...1ac.1.64.img..0.3.267.F3WErgWtU#hl=th&tbm=isch&q=%E0%B9%84%E0%B8%A1%E0%B9%82%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B9%80%E0%B8%A7%E0%B8%9F